เตือนภัย-กินน้ำ-เยอะเกินไป   อันดับแรกไม่ต้องตระหนกตกใจการที่น้ำจะเป็นพิษนั้นจะเกิดขึ้นตอนเรากินน้ำปริมาณ 3-4 ลิตรภายในระยะเวลาสั้นๆ หรือภายในไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งโดยทั่วไปเราอาจจะไม่ทำอย่างงั้นกันอยู่แล้ว แต่ในการที่เราจะทำการดื่มน้ำเยอะเกินไปนั้น จะเป็นการทำร้ายร่างกายของเรามากๆ

เราก็เลยควรที่จะทำความรู้จักกับสภาวะน้ำเป็นพิษกันให้ดีๆเลย เพราะว่าการที่เราทำการดื่มน้ำมากจนเกินไปจนเกิดสภาวะน้ำเป็นพิษนั้น จะเป็นการส่งผลร้ายต่อเราได้จนถึงขั้นที่ เราสามารถเสียชีวิตได้เลย

ภาวะน้ำเป็นพิษ คืออะไร

สภาวะน้ำเป็นพิษ นั้นจะเป็นสภาวะที่เกิดขึ้นมาจากที่เรากินน้ำเยอะมากจนเกินไป จนกระทั่งมีผลต่อรูปแบบการทำงานของร่างกาย ตัวอย่างเช่น สมองหยุดทำงาน น้ำในเลือดมาก กระทั่งมันไปเจือจางอิเล็กโทรไลต์ในเลือด ได้แก่ โซเดียม ที่ธรรมดาแล้วจะมีไว้เพื่อทำหน้าที่ปรับความเท่าเทียมกันกับของเหลวระหว่างด้านในแล้วก็นอกเซลล์ เนื่องจากว่าถูกเจือจางจะส่งผลให้เกิดการบวม กระทั่งก่อให้เกิดอันตรายต่อสมอง

ภาวะน้ำเป็นพิษเกิดขึ้นตอนไหน

ซึ่งอาการของสภาวะน้ำเป็นพิษจะชอบเกิดขึ้นภายหลังจากการที่เรากินน้ำเยอะเกินไป ยกตัวอย่างเช่น 3-4 ลิตรในระยะเวลาเพียงไม่นาน หรือดื่มมากเกินความจำเป็นต่อที่ร่างกายของเราจะได้รับ วันละ 6-7 ลิตร ซึ่งร่างกายของเราต้องการน้ำเพียงแค่1-2ลิตรแล้วก็มักมีสัญญาณเตือนออกมา ยกตัวอย่างเช่น

การที่เราจะมีอาการปวดหัว การที่เราเริ่มอยากที่จะอ้วก คลื่นไส้ การที่เราเกิดการเป็นตะคริว การชัก การที่เราเริ่มที่จะรู้สึกง่วงนอน หรือมีอาการอ่อนเพลีย และการที่เรามีการหมดสติแล้วก็ชัก

รวมทั้งในบางครั้งอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการเสี่ยงสูงต่อสภาวะน้ำเป็นพิษ ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ใช้ยากระตุ้นต่างๆแล้วจำต้องเต้นเป็นระยะเวลาที่ยาวนานหลายชั่วโมง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    เครื่องช่วยฟังที่เสียงรบกวนน้อยที่สุด

ชาวญี่ปุ่นให้ความใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมรวมทั้งแนวทางการทำงานของไส้เป็นอันมาก ด้วยเหตุว่าเขามั่นใจว่าถ้าสุขภาพของลำไส้ดี ก็จะนำมาซึ่งการทำให้สุขภาพกายแข็งแรง อาจจะความงดงามและก็ความอ่อนวัยไว้ รวมทั้งทำให้ผอมบางด้วย ด้วยเหตุนั้นชาวญี่ปุ่นมักให้ความใส่ใจกับสินค้าของกินดองที่เต็มไปด้วยกรดแลคติก แอซิด แบคทีเรีย

หนึ่งในของกินดองที่แม้ว่าจะมีเชื้อชาติประเทศเกาหลี แต่ว่าคนประเทศญี่ปุ่นก็นิยมกินบ่อยๆดูเหมือนจะทุกวันเป็น กิมจิ มารู้คุณ  ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจาก “กิมจิ”    กรรมวิธีกินเพื่อทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นแนวทางการทำงานของไส้จากคนประเทศญี่ปุ่นกัน 

ช่วยให้การทำงานของลำไส้ดี

กิมจิเต็มไปด้วยแลคติกแอซิด แบคทีเรีย การกินกิมจิบ่อยๆจะมีผลให้สภาพแวดล้อมในลำไส้ดี ทำให้มีการมีการถ่ายดี โดยช่วยกำจัดของเสียออกมาจากร่างกาย ทำให้ผิวพรรณแจ่มใส ช่วยลดการสั่งสมของไขมัน ทั้งยังยังมีผลให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น เนื่องจากว่า 60-70 เปอร์เซ็นต์ของเซลล์ภูมิต้านทานนั้นผลิตขึ้นจากลำไส้

ช่วยเสริมการทำงานของระบบเผาผลาญพลังงาน

กิมจิเต็มไปด้วยวิตามินบี 1 และก็บี 2 ซึ่งวิตามินบี 1 มีหน้าที่สำคัญสำหรับการเผาผลาญแป้ง รวมทั้งวิตามินบี 2 มีหน้าที่สำคัญสำหรับการเกื้อหนุนการเผาไหม้ไขมัน ก็เลยช่วยไม่ให้อ้วนได้ง่าย

ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

กิมจิเต็มไปด้วยสาร GABA มีส่วนช่วยทำให้ร่างกายบรรเทา ลดความเคร่งเครียดและก็ยังช่วยทำให้นอนได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ช่วยเสริมการเผาผลาญไขมัน

สารแคปไซซิน (Capsaicin) ในกิมจิเป็นตัวช่วยเสริมการเผาไหม้ไขมันภายในร่างกาย ก็เลยส่งผลช่วยลดความอ้วนได้ นอกนั้นสารจำพวกนี้ยังช่วยทำให้ไส้ขับเคลื่อนเจริญ ทำให้การขับถ่ายอุจจาระชำนาญ ทำให้สภาพแวดล้อมในไส้ดี แล้วก็สร้างเสริมภูมิต้านทานที่แข็งแรงของร่างกาย

วิธีการรับประทานกิมจิเพื่อช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น

รับประทานร่วมกับอาหารอื่นๆ เช่น อะโวคาโดหรือน้ำมันมะกอก

อะโวคาโดเต็มไปด้วยใยอาหารและก็วิตามินอี โดยช่วยเสริมค่าด้านความงดงามยกกำลังสอง น้ำมันที่สกัดจากมะกอกมีกรดโอเลอิก (Oleic acid) ที่ช่วยทำให้การขับถ่ายของเสียออกมาจากทางอุจจาระได้ง่ายมากยิ่งขึ้นและก็ทำให้สภาพแวดล้อมในไส้ดี

รับประทานตอนกลางคืน

ลำไส้มนุษย์เรามักจะเขยื้อนทำงานได้ดิบได้ดีในกลางคืน ฉะนั้นในตอนที่จะก่อให้ร่างกายนำแลคติกแอซิด แบคทีเรียจากกิมจิไปเสริมแนวทางการทำงานของไส้ให้ดียิ่งขึ้น เป็นตอนกลางคืนภายหลังการตื่นนอนในเวลาเช้าโดยประมาณ 15-19 ชั่วโมง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

ภาวะโภชนาการเกิน เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับความสนใจจากการใช้พลังงานมากเกินไปและวิกฤตโรคอ้วนที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาวะขาดสารอาหารยังคงเป็นความกังวลที่เพิ่มขึ้น ภาวะทุพโภชนาการ หมายถึง ภาวะโภชนาการที่ไม่ดี ส่งผลกระทบต่อผู้คนกว่าสามล้านคนในสหราชอาณาจักร

โดย 93% ของคนเหล่านี้อาศัยอยู่ในชุมชน นอกจากนี้ยังพบในผู้ใหญ่ 1 ใน 4 คนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล10 อาหารคุณภาพต่ำที่บริโภคในปริมาณที่ไม่เพียงพอหรือมากเกินไปทั้งสองอย่างมีส่วนทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการ

เนื่องจากสารอาหารไม่ได้รับในสัดส่วนที่เพียงพอหรือเหมาะสม แม้จะมีปริมาณแคลอรีจากอาหารที่ได้รับมากเกินไป 

คนอ้วนก็มีอัตราการขาดสารอาหารรองที่ค่อนข้างสูง หนึ่งในห้าของคนในสหราชอาณาจักรอาศัยอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนและไม่สามารถซื้ออาหารได้เพียงพอกับความต้องการทางโภชนาการ

ของพวกเขา ครอบครัวที่มีรายได้น้อยใช้จ่ายเพียง 2.10 ปอนด์ต่อคนต่อวันในการซื้อของชำ13 ความต้องการทางโภชนาการที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการเจ็บป่วยหรือการบาดเจ็บมักถูกประเมินต่ำเกินไป เมื่อเข้ารับการรักษา

ความเครียดที่เพิ่มขึ้นและผลกระทบของการแทรกแซง ขั้นตอนการผ่าตัด และการติดเชื้อฉวยโอกาส ล้วนแต่เพิ่มการใช้พลังงานอย่างมีนัยสำคัญ ความต้องการสารอาหารพัฒนาต่อไป เพิ่มโอกาสของภาวะทุพโภชนาการที่เกิดขึ้นขณะอยู่ในการดูแลหากไม่เป็นไปตามความต้องการเหล่านี้

ผลที่ตามมาของการเลือกวิถีชีวิตที่ไม่ดี ภาวะทุพโภชนาการทั้งหมดย่อมมาพร้อมกับความไวต่อการเจ็บป่วยและภาวะแทรกซ้อนทางคลินิกที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงเหล่านี้สามารถลดลงได้อย่างมากหากรับรู้ตั้งแต่เนิ่นๆ

และได้รับการปฏิบัติอย่างเฉพาะเจาะจงด้วยมาตรการที่ค่อนข้างง่าย ภาวะแทรกซ้อนทางคลินิกที่เกี่ยวข้องกับการขาดสารอาหารสามารถลดลงได้มากถึง 70% และอัตราการเสียชีวิตลดลงประมาณ 40%.14 ภาวะโภชนาการที่ไม่ดีและการไม่ออกกำลังกายสามารถมีส่วนทำให้เกิดสิ่งต่อไปนี้

อาการท้องผูก โรคโลหิตจางเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจจังหวะ

สุขภาพจิตเสื่อม ความผิดปกติของระบบประสาทกล้ามเนื้อลีบ ปัญหาการมองเห็นเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้ม ภูมิต้านทานไม่ดี เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับเสี่ยงติดเชื้อสูง อยู่โรงพยาบาลเป็นเวลานานเพิ่มการพึ่งพาและยาค่าใช้จ่ายใบสั่งยาเพิ่มขึ้น

การรับซ้ำและการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลซ้ำ พยาบาลควรส่งเสริมการกินและออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเมื่อใด เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการดำเนินงานของ NHS – Making Every Contact Count (MECC)15 – พยาบาลได้รับการคาดหวังให้ส่งเสริมทาง  เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก     เลือกในการดำเนินชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้นตั้งแต่จุดที่เข้ารับการรักษาจนถึงการปลดประจำการ การประเมินผู้ป่วยและโภชนาการพร้อมกับคำแนะนำ

ในการใช้ชีวิตที่เหมาะสมและระบบการส่งต่อที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในเชิงบวกในระยะยาว ผู้ป่วยรายใดควรได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย ผู้ป่วยทุกคนควรได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับอาหารและการออกกำลังกาย อย่างไรก็ตาม ควรเน้นเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่อ่อนแอที่สุด

ได้แก่ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ตั้งครรภ์ ผู้ป่วยหลังผ่าตัด. ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระเพาะ/การกินอาหาร จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้ป่วยรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพและไม่ออกกำลังกาย ประโยชน์ของการปรับปรุงการดูแลด้านโภชนาการ

และการให้ความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอนั้นมีมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาในระยะยาว หลักฐานแสดงให้เห็นชัดเจนว่า หากละเลยความต้องการด้านโภชนาการ ผลลัพธ์ด้านสุขภาพจะแย่ลง นี่คือโครงร่างในกล่อง 1.16

รายงานการหยุดชะงัก Thompson ไม่ใช่ผู้ป่วยเพียงรายเดียวที่รายงานความล่าช้าหรือการหยุดชะงักในการเข้าถึง methotrexate ตามที่มูลนิธิโรคข้ออักเสบ “โดยรวมแล้ว เรารวบรวมคำตอบจากผู้ป่วยได้ประมาณ 523 รายทั่วประเทศ

โดย 16 รายระบุว่ามีปัญหาในการรับยาตั้งแต่การตัดสินใจของ Dobbs” ไฮด์กล่าว “คำตอบทั้ง 16 ข้อมาจากรัฐที่มีข้อจำกัดหรือคำสั่งห้ามทำแท้ง รวมถึงแอริโซนา ไอดาโฮ มิสซูรี เซาท์แคโรไลนา ยูทาห์ เทนเนสซี และเท็กซัส” มูลนิธิ Crohn’s & Colitis ยังได้เฝ้าติดตามการหยุดชะงักของการเข้าถึง methotrexate ในหมู่ผู้ที่เป็นโรค Crohn หรืออาการลำไส้ใหญ่บวมเป็นแผลซึ่งเป็นโรคลำไส้อักเสบทั้งสองรูปแบบ “เราทราบถึงกรณีต่างๆ

ที่ได้รับการบันทึกไว้ในที่สาธารณะ และมูลนิธิ Crohn’s & Colitis กำลังติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิดเพื่อกำหนดขอบเขตของการหยุดชะงัก และเพื่อสนับสนุนผู้ป่วยที่อาจถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าถึง” ลอร่า วินเกท รองประธานบริหารฝ่ายการศึกษา

การสนับสนุนและการสนับสนุนที่มูลนิธิ Crohn’s & Colitis บอก Healthline “การสนทนาอย่างต่อเนื่องของเรากับผู้ให้บริการทางการแพทย์และผู้ป่วยไม่ได้ระบุในทันทีว่าการหยุดชะงักของยาดังกล่าวสำหรับผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังเป็นปัญหาที่แพร่หลายในปัจจุบัน” เธอกล่าวเสริม

ผลกระทบด้านลบต่อผู้ป่วยและผู้ให้บริการ เมื่อการเข้าถึง methotrexate ล่าช้าหรือหยุดชะงัก อาจส่งผลเสียต่อผู้ป่วยที่ใช้ยานี้เพื่อรักษาอาการอักเสบจากภาวะเรื้อรัง “ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาตามแพทย์สั่งตามคำแนะนำของแพทย์ แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีอาการก็ตาม

เพื่อป้องกันไม่ให้โรคเริ่มลุกลาม” Wingate กล่าว “ความล่าช้าอย่างมากหรือการปฏิเสธการรักษาอาจเพิ่มกิจกรรมของโรค และการอักเสบที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้อาการแย่ลง

ผู้ป่วยอาจต้องไปห้องฉุกเฉิน เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือต้องผ่าตัด” แม้แต่ความล่าช้าในระยะสั้นอาจส่งผลเสียต่อผู้ป่วยและครอบครัวโดยทำให้เกิดความเครียด ความไม่แน่นอน และความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในการจัดการโรค เนื่องจากขาดความชัดเจนในถ้อยคำของกฎหมายที่จำกัดยาที่ทำให้เกิดการแท้ง แพทย์และเภสัชกรอาจต่อสู้กับความไม่แน่นอนในเรื่องที่พวกเขาสามารถสั่งจ่ายยาหรือจ่ายยาอย่างถูกกฎหมาย เช่น เมโธเทรกเซตได้ 

“สมาชิกและผู้ป่วยของเรารายงานว่าความไม่แน่นอนนี้กำลังรบกวนการดูแล ผู้ป่วยที่ใช้ยาเหล่านี้ด้วยเหตุผลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการยุติการตั้งครรภ์รายงานความท้าทายใหม่ในการเข้าถึงยาเหล่านี้และยาอื่น ๆ และทำให้สุขภาพของผู้ป่วยตกอยู่ในความเสี่ยง” American Medical Association, American Pharmacists Association, American Society of Health-System เภสัชกรและสมาคมเภสัชกรชุมชนแห่งชาติในแถลงการณ์ร่วม

แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ออกเมื่อเดือนกันยายน “ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพหลายคน รวมถึงแพทย์และเภสัชกร ไม่แน่ใจในความรับผิดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสั่งจ่ายยาและ/หรือการจ่ายยาเหล่านี้ ไม่ว่าจะใช้เพื่อการทำแท้งหรือสิ่งบ่งชี้อื่น ๆ ก็ตาม” ถ้อยแถลงกล่าวเสริม

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟัง

โรคสมองเสื่อม เป็นเช่นไร แล้วเกิดขึ้นจากอะไร โรคนี้เป็นอาการที่จะจำเรื่องใหม่ ๆ ไม่ค่อยได้ คิดออกแม้กระนั้นเรื่องเก่า ๆ ทำให้พูดจำเจ วกวน อยู่เรื่องเดิม สร้างความเบื่อหน่ายให้กับคนสนิทที่ไม่เคยรู้ปัญหา ถัดมาก็มีลักษณะอาการหลง ๆ ลืม ๆ ทำไปแล้วแต่คิดว่ายังไม่ทำ 

หรือหากยังไม่ทำก็คิดว่าตนเองทำแล้ว บางครั้งบางคราวก็หลงด้านผิดทาง หูแว่ว จิตหลอน ความฉลาดปราดเปรื่อง ความนึกคิด การตัดสินใจจะเสื่อมลง บางบุคคลจะมีบุคลิก ความประพฤติปฏิบัติ แล้วก็อารมณ์เปลี่ยนไปจากเดิม ส่วนใหญ่จะมีลักษณะกลับไปเป็นเด็ก

 รวมทั้งเมื่อโรคสมองเสื่อมดำเนินโรคไปถึงรุนแรงจะมีความพิกลพิการ ทำให้การเคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่ว ช่วยเหลือตัวเองมิได้ แม้กระทั้งในเรื่องกิจวัตรที่ทำเป็นประจำ ในบางครั้งก็อาจจะจำอะไรไม่ได้เลย ติดต่อสื่อสารกันไม่ค่อยเข้าใจ ควบคุมการขับถ่ายมิได้จนถึงตอนท้ายก่อนที่จะสูญเสียชีวิตจะทุพพลภาพอย่างสิ้นเชิงถาวร นอนนิ่งอยู่บนเตียง ไม่ค่อยทานอะไรเนื่องจากว่ากลืนไม่ลง

การคุ้มครองป้องกันตนเองไม่ให้เกิดโรคดังกล่าว ต้องบำรุงรักษาร่างกายและจิตใจให้ดี โดยการ

– กินอาหารถูกสุขลักษณะ กินน้ำสะอาดให้พอต่อวัน

– อยู่ในที่อากาศระบายดี

– บริหารร่างกายเสมอ ๆ

– ทำอารมณ์ให้แจ่มใส สนุกสนานรื่นเริง

– เลี่ยงการสูบยาสูบ ดื่มสุรา 

– การทุกข์ยากลำบากทำงานมาก รวมทั้งสิ่งอื่น ๆ ที่มีอันตรายต่อร่างกาย

ไม่มียาชนิดไหนที่จะสามารถช่วยคุ้มครองมนุษย์จากโรคสมองเสื่อม แม้ว่าจะมีการล่ำลือกัน หรือชวนเชื่อกันมากมายก็อย่าไปเชื่อ ยารักษาโรคสมองเสื่อมยิ่งน่าเชื่อถือลดน้อยลงไปอีก แม้กระทั้งจะคุ้มครองปกป้องไม่ให้สมองเสื่อมยังพึ่งยาไม่ค่อยได้ เมื่อเสื่อมแล้วจะหายาไปซ่อมบำรุงให้ดียิ่งขึ้นยิ่งยากกว่า แม้กระนั้นยังมีผู้เจ็บป่วยโรคสมองเสื่อมบางร่ายที่มีต้นสายปลายเหตุอื่น ๆ

รวมทั้งสมองยังไม่ฝ่อ สามารถรักษาได้ดีขึ้นกว่าเดิม หรือหายสนิทได้ ยกตัวอย่างเช่น พบเนื้องอกของสมอง มีอาการเลือดคั่งในสมอง สมองบวมอักเสบ ขาดวิตามิน ขาดฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ และก็สภาวะน้ำคั่วในสมอง ฯลฯ

การพยาบาลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมถือได้ว่าเป็นภาระหน้าที่ที่หนักสำหรับเครือญาติ เพราะว่าควรต้องรอบคอบเรื่องอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจเป็น เพราะความประพฤติของคนป่วย โดยยิ่งไปกว่านั้นการพัดตกหกล้ม การพลัดหลง การใช้เตาแก๊สแล้วลืมเปิด และก็การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วช็อต ฯลฯ

ผู้เจ็บป่วยบางรายก็มีความประพฤติตนที่กระด้าง หรือค่อนข้างแย่ ทำให้ผู้ดูแลทุกข์กายไม่สบายใจ ในรายที่ทุพพลภาพทั้งหมด ก็จำต้องได้รับการดูแลเสมือนเด็กแบเบาะ ในที่สุดก็จะต้องพินิจว่าถึงเวลาต้องช่วยยืดชีวิตหรือ ยืดเวลาในการเสียชีวิตกันแบบไหนถึงจะดี

 

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ

                       คาร์โบไฮเดรต   ไม่จำเป็นถ้าคุณนั่งอยู่ที่โต๊ะทั้งวันเพราะคุณไม่จำเป็นต้องมีพลังงานพิเศษ  Sophie Killer ซึ่งหมายความว่าสิ่งแรกที่เกิดขึ้นคือน้ำจะผ่านเข้าไปในลำไส้เพื่อย่อย  นำออกจากส่วนอื่น ๆ ของร่างกายที่อาจต้องการ ที่กล่าวว่า หลักฐานแสดงให้เห็นว่าเครื่องดื่มเกลือแร่ที่มีอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งรวมถึงโซเดียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียม

สามารถให้ความชุ่มชื่นแก่เราได้ดีกว่าน้ำ “เครื่องดื่มเกลือแร่ที่ออกแบบมาเพื่อกำหนดเป้าหมายกลไกทางสรีรวิทยาเหล่านี้ชะลอการเปลี่ยนแปลงของของเหลวในลำไส้เล็กที่ดูดซึมกลับเข้าสู่ร่างกาย” โอเว่นเจฟฟรีส์อาจารย์ด้านสรีรวิทยาการกีฬาและการออกกำลังกายที่มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลกล่าว

                        นักกีฬาสูญเสียเหงื่อในปริมาณมากในช่วงเวลาที่ยาวนาน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพวกเขาที่จะเปลี่ยนอิเล็กโทรไลต์ที่สูญเสียไป แต่พวกเราที่เหลือไม่จำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่เพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ อาหารที่สมดุลควบคู่ไปกับเครื่องดื่มปกติที่เราบริโภคจะมีของเหลวเพียงพอสำหรับคนที่จะได้รับทุกสิ่งที่ต้องการ Sophie Killer ที่ปรึกษาด้านโภชนาการด้านประสิทธิภาพ

สำหรับนักกีฬาชั้นยอดและมืออาชีพกล่าว “เครื่องดื่มเกลือแร่ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตซึ่ง [เป็น] น้ำตาลโดยพื้นฐานแล้ว  ไม่จำเป็นถ้าคุณนั่งอยู่ที่โต๊ะตลอดทั้งวันเพราะคุณไม่จำเป็นต้องมีพลังงานพิเศษ” เธอกล่าว

                       เช่นเดียวกับเกลือซึ่งหลายคนบริโภคมากเกินไปแล้ว “โซเดียมมีบทบาทสำคัญในปฏิกิริยาทางชีวเคมีหลายร้อยรายการในร่างกาย และเป็นอิเล็กโทรไลต์ที่เราสูญเสียในปริมาณสูงสุดในเหงื่อของเราเมื่อเราออกกำลังกาย” Killer กล่าว David Nieman ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาจาก Appalachian State University และผู้อำนวยการ Human Performance Laboratory ที่ North Carolina Research Campus กล่าวว่าคนทั่วไปที่มีระบบการออกกำลังกาย

โดยเฉลี่ยจะไม่สูญเสียน้ำมากจนพวกเขาต้องการเครื่องดื่มเกลือแร่ แต่การดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญในหมู่ประชากรทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากการศึกษาพบว่าหนึ่งในห้าของเราขาดน้ำภายในหนึ่งสัปดาห์

                    จริงๆแล้วการบริโภคคาร์โบไฮเดรตใดๆ ก็ตาม จะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำเข้าสู่ร่างกายและช่วยให้เรารักษาสิ่งที่เราดื่มได้ การดื่มน้ำเปล่าและผลไม้สักชิ้นก่อนออกไปวิ่งจะช่วยได้ Neiman ซึ่งพบว่าการกินผลไม้ระหว่างออกกำลังกายช่วยให้ฟื้นตัวได้ กล่าว “กล้วยครึ่งลูกประกอบด้วยน้ำตาลและโพลีฟีนอล 24 ชนิด ซึ่งจะกักเก็บน้ำไว้ในร่างกาย และมีสารอาหารเพื่อรองรับการออกกำลังกาย” เขากล่าว คำแนะนำนี้ยังใช้กับเด็กด้วย

Gabriella Montenegro นักวิจัยด้านโภชนาการที่ศูนย์การศึกษาทางประสาทสัมผัส การด้อยค่า อายุ และการเผาผลาญในกัวเตมาลากล่าว ในการวิจัยของเธอ เธอพบว่าเด็กที่กินผักและผลไม้เป็นประจำจะดื่มน้ำได้ดีกว่า เธอแนะนำให้เด็กและผู้สูงอายุโดยเฉพาะที่มีความเสี่ยงสูงที่จะขาดน้ำ กินผักและผลไม้ให้มากขึ้น

                   อันที่จริงการบริโภคคาร์โบไฮเดรตจะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำเข้าสู่ร่างกายและช่วยให้เรารักษาสิ่งที่เราดื่มได้ Killer กล่าว “วิธีที่ง่ายที่สุดคือการดื่มน้ำพร้อมอาหารเพราะมันจะช่วยให้ร่างกายดูดซับของเหลวและกักเก็บน้ำไว้ได้ช้า ๆ ทำให้สามารถข้ามเยื่อหุ้มและไปยังจุดที่ต้องการเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่คุณแทนที่จะไปตรง กระเพาะปัสสาวะทำให้เกิดการผลิตปัสสาวะเพิ่มขึ้น “เธอกล่าว

 

สนับสนุนโดย.      หูตึงรักษา 

อาหารของคุณมีบทบาทสำคัญในสุขภาพของคุณ การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงชั้นนำ

การกำหนดอาหาร สำหรับโรคเกี่ยวกับหัวใจ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคเบาหวาน การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพสามารถลดความเสี่ยงต่อภาวะเหล่านี้ได้

แผนการกินเพื่อสุขภาพรวมถึงผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด ผลิตภัณฑ์จากนมที่ปราศจากไขมันหรือไขมันต่ำ เนื้อไม่ติดมัน สัตว์ปีก ปลา ถั่ว ไข่ และถั่ว นอกจากนี้ยังจำกัดปริมาณน้ำตาล เกลือ และไขมันที่คุณกิน

การกำหนดอาหารเพื่อสุขภาพเป็นวิธีหนึ่งที่อาจช่วยลดโรคหัวใจและภาวะหัวใจและหลอดเลือดอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะคุ้มค่าหรือช่วยลดภาระโรคหรือไม่ 

โดยการวิจัยนั้นนำทีมโดย ดร. Yujin Lee, Dariush Mozaffarian และ Renata Micha จาก Tufts University และ Dr. Thomas A. Gaziano ที่ Brigham and Women’s Hospital ได้จำลองสุขภาพและประโยชน์ด้านต้นทุนของการสั่งอาหารโดยใช้ข้อมูลจาก National Health and Nutrition Examination Survey (NHANES)

พวกเขาจำลองผลลัพธ์ที่เป็นไปได้สำหรับการรวมนโยบายสิ่งจูงใจด้านอาหารเพื่อสุขภาพใน Medicare และ Medicaid ซึ่งครอบคลุมประมาณหนึ่งในสามของพลเมืองสหรัฐฯ การวิจัยได้รับการสนับสนุนโดยสถาบันหัวใจ ปอด และโลหิตแห่งชาติ (NHLBI) ของ NIH ผลลัพธ์ถูกตีพิมพ์เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2019 ใน PLoS Medicine

ทีมงานได้จำลองสิ่งจูงใจด้านอาหารสองอย่าง: เงินอุดหนุน 30% สำหรับผักและผลไม้ และเงินอุดหนุน 30% สำหรับอาหารเพื่อสุขภาพโดยทั่วไป ได้แก่ ผลไม้ ผัก ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว เมล็ดพืช อาหารทะเล และน้ำมันจากพืช นักวิจัยได้ใช้ข้อมูล NHANES จากผู้ใหญ่ใน Medicare และ Medicaid ในการสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์เพื่อประเมินประโยชน์ด้านสุขภาพและเศรษฐกิจของโปรแกรมจูงใจเหล่านี้ในช่วง 5, 10 และ 20 ปี และตลอดอายุของผู้เข้าร่วม

หากใช้แรงจูงใจจากผักและผลไม้ไปตลอดชีวิต แบบจำลองคาดการณ์ว่าการบริโภคผักและผลไม้โดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นประมาณ 0.4 เสิร์ฟต่อวัน ซึ่งจะช่วยป้องกันเหตุการณ์โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ประมาณ 1.93 ล้านเหตุการณ์ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลได้ 39.7 พันล้านดอลลาร์

แบบจำลองคาดการณ์ว่าสิ่งจูงใจด้านอาหารเพื่อสุขภาพโดยทั่วไปที่ดำเนินการไปตลอดชีวิตจะเพิ่มการบริโภคผักและผลไม้ในปริมาณที่เท่ากัน นอกจากนี้ยังจะเพิ่มการบริโภคธัญพืชไม่ขัดสีโดยเฉลี่ย 0.2 เสิร์ฟต่อวัน ถั่วและเมล็ดพืช 0.1 เสิร์ฟ อาหารทะเล 0.2 เสิร์ฟ และน้ำมันพืช 1.5 ช้อนชา สิ่งนี้จะป้องกันเหตุการณ์โรคหัวใจและหลอดเลือดประมาณ 3.28 ล้านเหตุการณ์และผู้ป่วยโรคเบาหวาน 120,000 ราย

และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพได้ 100.2 พันล้านดอลลาร์ ผลการวิจัยของเราสนับสนุนการดำเนินการและการประเมินใบสั่งอาหารเพื่อสุขภาพภายในระบบการดูแลสุขภาพเพื่อปรับปรุงอาหารและสุขภาพของคนอเมริกัน มิชากล่าว

Mozaffarian กล่าวว่า ผลการวิจัยใหม่เหล่านี้สนับสนุนแนวคิดเรื่องอาหารคือยาและสำหรับโปรแกรมที่เป็นนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมและชดเชยการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพสามารถและควรรวมเข้ากับระบบการดูแลสุขภาพ Mozaffarian กล่าว

 

สนับสนุนโดย.    ถ่านเครื่องช่วยฟัง