การดูแลความสัมพันธ์ภายในครอบครัวให้ดีขึ้น

 เชื่อว่าหลายคนมักจะยุ่งกับการทำงานจนบางทีอาจจะมองข้ามความสัมพันธ์ในครอบครัวที่มันควรจะเป็นไป วันที่เรานั้นไม่ใส่ใจคนในครอบครัวมันไม่ได้บอกว่าเราไม่รักคนในครอบครัวก็จริงแต่การดูแลเอาใจใส่ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่ควรจะทำและยังเป็นเรื่องที่สำคัญมากอีกเรื่องหนึ่งของการใช้ชีวิตของเรา

 

สายสัมพันธ์ของครอบครัวจะดีขึ้นก็ต่อเมื่อเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อครอบครัวของเราการมีคุณพ่อคุณแม่ที่มีการพูดคุยกับเราอยู่บ่อยครั้ง

มันจะส่งผลทำให้เรารู้สึกอบอุ่นและนั่นคือความสัมพันธ์ที่ดีที่เกิดขึ้นนั้นก็จะเป็นผลสืบทอดทำให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อบุคคลรอบข้างเช่นเพื่อนร่วมงานญาติพี่น้องเป็นต้น

 

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะของความสัมพันธ์ในครอบครัวแบบไหนการมีความสัมพันธ์ที่ดีอย่างเช่นเราเป็นคุณพ่อหรือเราเป็นคุณแม่ก็ต้องมีความสัมพันธ์ดีดีกับลูกต่อมาเพื่อที่จะให้ลูกของเรามีความสัมพันธ์ที่ดีเติบโตกลายเป็นบุคคลที่ดีต่อไป

 

เทคนิคในการดูแลความสัมพันธ์ในครอบครัวของเราให้ดียิ่งขึ้น

 

1.ทำความเข้าใจการชื่นชมและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

แม้ว่าการทำงานมันจะหนักหน่วงสำหรับคุณในแต่ละวันมากๆแต่การที่คุณชื่นชมคนในครอบครัวของคุณเมื่อเขาทำความดีหรือให้กำลังใจสำหรับเวลาที่เขามีความทุกข์ใจหนักใจนั่นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเป็นสายสัมพันธ์สำหรับครอบครัวของคุณคุณควรจะมีความเอาใจใส่กับบุคคลภายในครอบครัวของคุณให้ลึกซึ้ง

การมองการถามว่าวันนี้ไปเจออะไรมาไม่ใช่เรื่องยากเย็นถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้เจอหน้ากันทั้งวันหรือทุกวันก็สามารถที่จะถามกันได้ ในยุคสมัยนี้การสื่อสารมีมากมายหลายช่องทางนั่นจึงไม่ใช่ข้ออ้างที่คุณจ๋าไม่สอบถามคนในครอบครัวของคุณถึงความสุขความทุกข์ใจ

 

2.ไม่ต่อว่าหรือดูถูกกดขี่ข่มเหงกัน

ความรักภายในครอบครัวไม่ใช่คู่แข่งหรือไม่ใช่สตูกันดังนั้นการกดขี่ข่มเหงจึงไม่ควรมีในระบบครอบครัวคุณควรทำกิริยาที่ดีต่อคนในครอบครัวของคุณไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือปู่ย่าหรือแม้แต่เด็กเด็กลูกหลานภายในครอบครัวของคุณก็ไม่ควรที่จะประพฤติอะไรแย่แย่ใส่

ถึงแม้ว่าคุณจะเจอคนรอบข้างที่ไม่ดีมาก็ตามแต่ก็ไม่ควรนำอะไรมาในครอบครัวของคุณให้พวกเขาเหล่านั้นได้รับรู้สึกถึงความไม่ดี เหมือนกับที่คุณได้รับมา

พฤติกรรมที่ไม่ดีโดยเรานำมาทำใส่ในครอบครัวของเราอาจจะส่งผลทำให้ผิดใจกันหรืออาจจะส่งผลทำให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งภายในครอบครัวเอาเป็นเยี่ยงอย่างซึ่งนั่นเป็นพฤติกรรมสืบทอดทำให้ลูกหลานมีพฤติกรรมเช่นนี้กับบุคคลอื่นด้วยเช่นกัน

ดังนั้นเราไม่ควรเผลอเลอไม่ควรทำพฤติกรรมแย่แย่ที่อาจจะส่งผลตามมาทั้งผิดใจกันทั้งพฤติกรรมเลียนแบบนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

ความงามในสายตาผู้บริโภค บทวิจารณ์ตลาดความงามและการดูแลส่วนบุคคลในเอเชีย

ความสนใจทางการตลาดในเอเชียมักจะมุ่งเน้นไปที่ความเคลื่อนไหวของตลาดเกิดใหม่ กล่าวอย่างถูกต้องว่าเศรษฐกิจเหล่านี้มีผู้บริโภครุ่นใหม่มากกว่า 3 พันล้านคน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้ยังเป็นข้อมูลในการศึกษาอีกด้วย เนื่องจากมีความหลากหลายในด้านความมั่งคั่งและการพัฒนาตลาดผู้บริโภค ความงามและการดูแลส่วนบุคคล (BPC) เป็นหนึ่งในสาขาที่มีภาพประกอบมากที่สุด โดยครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์พื้นฐานสำหรับความต้องการในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่หรูหราและพิเศษเฉพาะที่สุด

จากสบู่สู่สกินแคร์ ขนาดตลาดของ Mintel ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและผลิตภัณฑ์ความงามปลีก 13 รายการ และการวิเคราะห์นี้เกี่ยวข้องกับส่วนแบ่งค่าใช้จ่ายที่จัดสรรให้กับแต่ละประเทศในแปดประเทศ หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์แตกต่างกันไปตั้งแต่ผลิตภัณฑ์อาบน้ำขั้นพื้นฐาน เช่น สบู่และแชมพู ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและน้ำหอมตามดุลยพินิจ สิ่งนี้ช่วยให้เราสามารถทดสอบสมมติฐานเชิงตรรกะได้ว่ายิ่งมาตรฐานการครองชีพยิ่งใหญ่เท่าใด

ส่วนแบ่งที่อุทิศให้กับหมวดหมู่อันทรงเกียรติก็จะมากขึ้นเท่านั้น ดังที่แผนภูมิแสดง สมมติฐานส่วนใหญ่มีอยู่ สบู่ ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ และผลิตภัณฑ์อาบน้ำคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 5 ของรายจ่ายของชาวอินเดีย แต่มีเพียงประมาณ 20 เท่านั้น

สำหรับคนร่ำรวยชาวญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ในอีกด้านหนึ่ง การดูแลผิวหน้าใช้เวลาประมาณ 40-50% ของการใช้จ่ายด้านความงามและการดูแลส่วนบุคคลทั้งหมดในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ แต่เพียงกว่า 10% ในอินเดียเท่านั้น ข้ออนุมาน: เมื่อรายได้เพิ่มขึ้น ยอดขายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าก็จะได้กำไรมากที่สุด

ข้อยกเว้นให้โอกาส แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงตลาดที่มีมูลค่าประมาณ 86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็จะต้องมีความผิดปกติอยู่บ้าง

เริ่มต้นด้วยชาวญี่ปุ่นที่มีมาตรฐานการครองชีพสูงสุด แต่เป็นชาวเกาหลีใต้ที่อุทิศตนให้กับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้ามากที่สุดและน้อยที่สุดก็ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ สบู่ และผลิตภัณฑ์อาบน้ำ เกาหลีใต้ถือได้ว่าเป็นประเทศเดียวกับฝรั่งเศสในยุโรป

โดยมีบทบาทนำในภาคความงามด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์มากมาย และนักท่องเที่ยวมาซื้อสินค้าที่ไม่มีในประเทศของตนเอง นี่คือเหตุผลที่ Mintel ได้ขยายฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ใหม่ทั่วโลกเพื่อครอบคลุมภาคส่วนศักดิ์ศรีในประเทศ

เวียดนาม ข้อยกเว้นดังกล่าวไม่เพียงแต่น่าสนใจในการสำรวจเท่านั้น แต่ยังสามารถให้เบาะแสเกี่ยวกับช่องว่างที่อาจเกิดขึ้นในตลาดได้อีกด้วย ตัวอย่างคือ สุขอนามัยช่องปากที่ชาวเวียดนามให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก แม้ว่ารายได้จะแตกต่างกัน แต่โดยเฉลี่ยแล้วชาวเวียดนามใช้จ่ายต่อหัวมากกว่าชาวจีนในการซื้อผลิตภัณฑ์ทันตกรรม

ปัจจัยสำคัญคือการรณรงค์ครั้งใหญ่ในหมู่ซัพพลายเออร์ชั้นนำในโรงเรียนและบริษัทต่างๆ เพื่อสนับสนุนการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอและการเปลี่ยนแปรงสีฟันบ่อยๆ ลองจินตนาการถึงศักยภาพในการเพิ่มส่วนแบ่งการใช้จ่าย BPC ในปัจจุบันของอินโดนีเซียหรือจีน

จาก 18% และ 13% ตามลำดับเป็น 30% ของชาวเวียดนาม หุ่นสวยในอินโดนีเซีย โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมีฐานผู้บริโภคที่ร่ำรวยในประเทศส่วนใหญ่ ในอินโดนีเซียสำหรับการดูแลผิวหน้าเป็นเช่นนี้เป็นอย่างมาก ผู้ที่จัดหาตลาดค้าปลีกมีเป้าหมายไปที่ชนชั้นกลางในเมืองเป็นหลัก ซึ่งมักชอบไปร้านเสริมสวยหรือผู้ประกอบวิชาชีพตามความต้องการ อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายมีตำแหน่งทางการตลาดและโปรไฟล์ผู้ใช้ที่แตกต่างกัน

ผลิตภัณฑ์มีราคาถูกกว่าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าหรือครีมกันแดดมาก ดังนั้นจึงเข้าถึงได้สำหรับประชากรส่วนใหญ่ มากเสียจนหลายคนมองว่าการดูแลร่างกายเป็นสิ่งจำเป็นในสภาพอากาศเขตร้อน โดยคิดเป็นเกือบ 1 ใน 6 รูเปียห์ที่ใช้ไปกับความงามและการดูแลส่วนบุคคล

 

สนับสนุนโดย    hoiana เวียดนาม

โรคยอดฮิตที่ผู้สูงวัยควรระวัง

รู้หรือไม่ว่า เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายของเราก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ขึ้น โดยเฉาพะอย่างยิ่งการเสื่อมสภาพของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย ยิ่งเราอายุมากขึ้น ปัญหาต่าง ๆ ก็จะยิ่งเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ๆ ซึ่งถือเป็นหนึ่งสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคร้ายนั่นเอง

โรคยอดฮิตที่ผู้สูงวัยควรระวัง ฉะนั้น การที่เราเริ่มหันมาให้ความสำคัญกักบารดูแลสุขภาพร่างกาย สำหรับผู้สูงอายุนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด เพราะโรคร้ายในสมัยปัจจุบันนี้อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและตลอดเวลา

ยิ่งถ้าร่างกายของเราอ่อนแอ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากร่างกายของผู้สูงอายุนั้น หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า เมื่อเราเริ่มเข้าสู่ช่วงสูงวัย ส่วนใหญ่แล้วมักที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะภายในร่างกาย กระดูก ข้อต่อ หรือรวมไปถึงการอีกเสบต่าง ๆ ของร่างกาย

ซึ่งก็อาจจะเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ๆ ดังนั้น การดูแลสุขภาพร่างกายให้ดีอยู่เสมอ ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนอย่างเพียงพอ

จึงเป็นหนึ่งสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีความกังวลว่าตนเองจะได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายได้ง่าย สำหรับ    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ    ผู้สูงอายุ ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกโรคยอดฮิตที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ จะมีโรคไหนบ้างที่มีความอันตราย ไปดูกันเลย 

โรคจอประสาทตาเสื่อม แน่นแน่ว่าโรคนี้เป็นหนึ่งในโรคอันดับต้น ๆ ที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ

เพราะเมื่อเราแก่ตัวลง ดวงตาของเราก็ย่อมเสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา ยิ่งไม่ได้รับการดูแลเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งอาจทำให้สุขภาพดวงตาของเราเกิดการเสื่อมสภาพได้ง่ายมาก ๆ ฉะนั้น การดูแลสุขภาพดวงตาของตนเองให้ดีอยู่เสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้สูงวัยนั้นไม่ควรที่จะมองข้าม เพื่อป้องกันการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมนั่นเอง 

โรคเส้นประสาทหูเสื่อม เป็นอีกหนึ่งโรคที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่นั้นมักที่จะพบเจอกันอยู่บ่อย ซึ่งโรคนี้หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับหู ไม่ค่อยได้ยิน ฟังไม่ค่อยชัด รวมไปถึงมีปัญหาเกี่ยวกับการสื่อสารนั่นเอง

ซึ่งก็ถือเป็นโรคยอดฮิตสำหรับผู้สูงอายุมาก ๆ ทางที่ดีเราควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพหูอยู่เสมอ เพราะจะได้ป้องกัน และใช้งานหูได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

โรคเบาหวาน โรคนี้ไม่เพียงแต่ผู้สูงอายุเท่านั้นที่จะได้รับความเสี่ยง แต่เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะในเรื่องของการรับประทานอาหาร ยิ่งเราทานหวานมาก ๆ เป็นประจำ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคเบาหวานสูงมากขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย ยิ่งอาจทำให้อาการนั้นรุนแรงมากขึ้นได้

โปรตีนจากพืชดีต่อร่างกายของเราอย่างไร

โปรตีนจากพืช สามารถทำให้อายุของคุณยืนยาวขึ้นมาได้ หลายคนมักจะสงสัยว่าทำไมโปรตีนพืชถึงทำให้อายุของคนยืนยาวขึ้นมาได้ ซึ่งเราไม่ได้พูดด้วยตัวของเราเองแต่เรานำมาจากการวิจัยที่มีผลออกมาแล้วจึงนำมาบอกกล่าว

โดยการเปรียบเทียบจากกลุ่มคนจำนวนมาก ยังใช้เวลาในการวิจัยเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน โดยมีการวิจัยจากกลุ่มคนที่กินโปรตีนจากพืชอย่างเดียวและอีกหนึ่งกลุ่มก็คือการกินโปรตีนจากพืชและเนื้อสัตว์ผสมกันปรากฏว่ามันก็มีส่วนที่ดีกว่าดังนั้นเราจึงจะมาพูดถึงโปรตีนจากพืชมีอะไรบ้าง 

โดยคุณสามารถนำวิธีการแนะนำตรงนี้ไปใช้ได้เพื่อทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้นและยืนยาวขึ้นเรามาดูกันดีกว่าว่าโปรตีนจากพืชที่ควรนำมารับประทานนั้นได้แก่อะไรบ้าง

1.เมล็ดฟักทอง

จะพูดถึงเรื่องของเมล็ดฟักทองนี้มันมีโปรตีนค่อนข้างที่จะสูงมาก ซึ่งมันจะเข้าไปช่วยลดไขมันภายในร่างกายของคุณแล้วยังช่วยรักษาระดับของน้ำตาลที่มีอยู่ในร่างกายของคุณอีกด้วย และเรายังค้นพบในงานวิจัยที่ยังช่วยเรื่องของการยับยั้งการเกิดการก่อมะเร็งในร่างกายตามส่วนต่างๆ ยังช่วยในเรื่องของการยับยั้งต่อมลูกหมากโตได้ดี

ซึ่งมาเลยฟักทองนี้ยังส่งผลให้แมกนีเซียมสูง ส่งผลถึงกระดูกและหัวใจของคุณให้ดีขึ้นตามมาด้วย หากเทียบว่าเมล็ดฟักทองในปริมาณมีโปรตีนสูงมากไหมมีผลวิจัยออกมาว่าค่อนข้างที่จะสูง งั้นหากเรากินเมล็ดฟักทองในปริมาณ 15 กรัมก็ถือว่าเราได้โปรตีนค่อนข้างที่จะพอเหมาะกับร่างกายของเราพอดี 

2.ถั่วอัลมอนต์

ทานอัลมอนด์ในแต่ละวันเราควรที่จะทานอัลมอนด์ให้ถึงหนึ่งกำมือต่อวันเพื่อที่เราจะได้โปรตีนพืชให้แก่ร่างกายของเราอย่างเพียงพอ ผู้ที่ทานอัลมอนด์นั้นจะต้องระมัดระวังให้ดีเพราะว่าในอัลมอนด์จะส่งผลให้แคลอรี่ของคุณสูงขึ้น

ถ้าไม่ควบคุณดีดีคุณอาจจะอ้วนขึ้นมาได้ แต่มันก็ยังเข้าไปช่วยในการทำให้ระบบเผาผลาญร่างกายของคุณดีได้นะและอัลมอนด์ยังช่วยทำให้ความจำของคุณดีขึ้นมาได้จำแม่นขึ้น

 3.เต้าหู้ขาวแบบแข็ง

แน่นอนว่าเราอิงจากผลวิจัยซึ่งก็ได้พูดถึงเต้าหู้ขาวด้วยเช่นกันว่าเต้าหู้ขาวชนิดแข็งนี้มีโปรตีนมากที่สุด และเต้าหู้ขาวก็ยังมีประโยชน์แก่ร่างกายของเรามากๆซึ่งเราแนะนำให้คุณทาน โดยสามารถทานได้ทุกวัน

แต่ว่าต้องควรระวังเกี่ยวกับการนำไปประกอบอาหารซึ่งไม่ควรนำเต้าหู้นั้นไปทอดสิ่งที่ควรนำไปทำก็คือไปนึ่งหรือจะไปอบก็ได้เช่นกันเพราะถ้าทำเช่นนี้จะได้คุณค่าทางอาหารมากกว่าการนำไปทอด

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน

แก้ไขอาการปัสสาวะบ่อยๆ หรือกระเพาะปัสสาวะทำงานไวจนเกินไป

หลายคนเคยเป็นอาการปัสสาวะบ่อย ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน แต่สำหรับบางคนก็เป็นทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งมันจะส่งผลทำให้การใช้ชีวิตแย่ลงไปด้วย ขอบอกเลยนะว่าคนที่เป็นหรือมีอาการปัสสาวะบ่อยนั้นอาจจะส่งผลให้เป็นโรคได้หลายอย่างกันเลยทีเดียว

คุณสามารถสังเกตอาการจากการปัสสาวะของคุณได้เบื้องต้นหากมีอาการผิดปกติมากควรไปปรึกษาแพทย์จะได้รักษาให้ถูกทาง

 

แต่สำหรับคนที่เป็นกระเพาะปัสสาวะทำงานไวสามารถแก้ไขได้ดังต่อไปนี้

 กระเพาะปัสสาวะทำงานไวเกินหรือ Overactive Bladder

 โดยโรคนี้สามารถพบเจอได้บ่อยเกี่ยวกับคนไทยของเรา ซึ่งสังเกตอาการได้ไม่ยากโดยเราจะพบว่าบุคคลที่เป็นโรคนี้มักจะมีอาการปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ

โดยไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็ตามซึ่งถ้าหากตรวจเลือดแล้วหรือว่าตรวจปัสสาวะแล้วไม่พบอาการผิดปกติแต่อย่างใดนั่นเท่ากับว่าคุณมีโอกาสที่จะเป็นกระเพาะปัสสาวะทำงานไวอย่างสูง

 ต้องบอกเลยนะว่าในปัจจุบันนั้นเราก็ไม่ได้ทราบสาเหตุต่างๆที่เกิดจากโลกนี้ได้อย่างชัดเจน แต่ว่าก็มีการสันนิษฐาน หลายอย่างโดยเฉพาะ ระบบประสาททำงานที่กระเพาะปัสสาวะ

ได้มีการทำงานผิดปกติ อย่างที่ทราบกันดีว่ากระเพาะปัสสาวะของเรานั้นมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่เมื่อมันผิดปกติจะส่ง สัญญาณไปยังระบบประสาทให้เราทำการปวดปัสสาวะบ่อยครั้ง

วิธีการแก้ไขกระเพาะปัสสาวะทำงานไวเกินไปมีดังนี้

 1.ลดปริมาณการดื่มน้ำลง

สำหรับใครก็ตามที่เป็นโรคนี้แล้วควรลดปริมาณในการดื่มน้ำลง ซึ่งมันจะช่วยให้เราปัสสาวะน้อยลง เราควรทำการบันทึกเวลาที่เราเข้าห้องน้ำเพื่อปัสสาวะบ่อยครั้งแค่ไหน จะได้ลดปริมาณน้ำที่เราดื่ม ลงได้ถูกต้อง

2.งดเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ

แน่นอนว่าการที่ทำให้เราปัสสาวะบ่อยครั้งถ้าเราต้องลดเครื่องดื่มที่มันมีตัวช่วยในการขับปัสสาวะของเราลงมาได้มันก็จะทำให้เราปัสสาวะน้อยลงไปได้ด้วยเช่นกัน

 โดยเครื่องดื่มเหล่านี้ประกอบไปด้วยแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มต่างๆที่มีส่วนผสมของคาเฟ่อีน น้ำอัดลมหรือแม้แต่เครื่องดื่มชูกำลังต่างๆก็มีส่วนผสมที่สามารถขับปัสสาวะของเราได้ด้วยดังนั้นเราควรที่จะหรือควรจะทานให้น้อยลงกว่าปกติเพื่อให้กระเพาะปัสสาวะของเราทำงานปกติ

3.ตรวจเช็คยาประจำตัว

คุณควรที่จะตรวจเช็คยาที่คุณกินบ่อยบ่อยว่าตัวไหนมันมีสารที่ช่วยในการเร่งหรือขับปัสสาวะของคุณหรือเปล่าซึ่งยาเหล่านี้มันสามารถส่งผลทำให้คุณปัสสาวะบ่อยได้เช่นกันดังนั้นคุณควรที่จะตรวจเช็คยาของคุณหรือควรปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะยาความดันบางตัว จะส่งผลให้มีการขับปัสสาวะได้บ่อยมาก

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ฮอยอาน่า

ฟังไว้ก่อน ที่ดินแบบนี้ ไม่ควรสร้างบ้าน

แนะนำไว้ก่อน อย่าเลือกที่ดินลักษณะนี้ในการก่อสร้างบ้าน ถ้าหากไม่ได้อยากต้องการสูญเงินจำนวนมหาศาล การคัดเลือกที่ดินให้คุ้มอีกทั้งพื้นที่และก็ราคาในการก่อสร้างบ้านนั้น เกิดเรื่องที่จำเป็นต้องใช้เวลาค้นหาพอควร

ด้วยเหตุว่ามีหลายประเภทที่จะต้องพินิจทั้งยังในเชิงพื้นที่ใช้สอย ตำแหน่ง รวมทั้งฮวงจุ้ยต่าง ๆ ถ้าหากคุณเป็นคนอีกคนหนึ่งที่กำลังมองหาที่ดิน

สำหรับก่อสร้างบ้านไม่สมควรพลาดเนื้อหานี้พวกเราได้นำมาแนะนำลักษณะที่ดินต้องห้าม ที่ราคาดีมากแค่ไหนก็จำเป็นต้องเซย์โน ถ้าหากไม่ได้อยากเศร้าใจตอนหลัง

– ที่ดินใกล้แม่น้ำ ต้องระมัดระวังบ้านทรุด น้ำหลาก

การผลิตบ้านบนที่ดินริมน้ำ แม้ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งที่ดูดีและก็มีข้อเด่นเยอะแยะ ทั้งยังทิวทัศน์วิว การขนส่งทางน้ำที่เพิ่มอีกเข้ามา ช่องทางสำหรับเพื่อการทำอาชีพริมน้ำ แหล่งน้ำสำหรับในการทำเกษตร หรือการซื้อเพื่อเก็งกำไร

แต่ว่าสิ่งที่ต้องระมัดระวังถ้าหากอยากก่อสร้างบ้านบนที่ดินจำพวกนี้หมายถึงปัญหาน้ำกัดกร่อน ที่จะมีผลทำให้บ้านดำเนินการทรุดลงเรื่อย ๆ รวมทั้งปัญหาน้ำหลากบ้านเมื่อกำเนิดฝนตกหนักจนถึงน้ำเอ่อฝั่ง ฯลฯ

– ที่ดินมีอดีต แหล่งรวมพลังงานลบ

ที่ดินที่เคยมีประวัติว่าเป็นป่าช้า โรงฆ่าสัตว์ โรงหมอ โรงงานอุตสาหกรรม วัด หรือ ศาสนสถานอื่น ๆ ในทางฮวงจุ้ยมั่นใจว่าเป็นที่ดินต้องห้าม ศูนย์รวมแหล่งพลังงานลบต่าง ๆ เอาไว้ ไม่เป็นมงคลกับการพักอาศัย

แม้กระนั้นถ้ามองดูในอีกมุมหนึ่ง ที่ดินพวกนี้บางทีอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ซากสัตว์ ศพต่าง ๆ ที่บางทีอาจกระทบต่อร่างกายของผู้อาศัยได้

– ที่ดินทรุดง่าย

ที่ดินบางที่ถึงแม้ไม่ติดแม่น้ำก็บางทีอาจกำเนิดปัญหาดินทรุดได้ โดยยิ่งไปกว่านั้นที่ดินในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้วก็เขตพื้นที่ละแวกใกล้เคียง ซึ่งโดยส่วนมากเป็นหลักที่ลุ่มต่ำ มีการตรวจพบว่าที่ดินในพื้นที่ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วมักทรุดลงทุก ๆ ปีราว 1 ซม.

แม้กระนั้นในแต่ละพื้นที่ล้วนมีช่วงเวลารวมทั้งระดับการพังของที่ดินแตกต่าง เจ้าของบ้านจะต้องเล่าเรียนข้อมูลของที่ดินในแต่ละพื้นที่อย่างรอบคอบ โดยควรจะเลี่ยงหน้าดิน ที่นุ่ม ไม่แน่น เนื่องจากจังหวะสำหรับในการกำเนิดดินทรุดออกจะสูง

หรือสามารถวิเคราะห์พื้นฐานได้ด้วยตัวเอง โดยไตร่ตรองจากจำนวนดินที่ไหลไปกับน้ำฝนเวลาที่ฝนตก ทั้งยังในทางหลักฮวงจุ้ยยังมีความเชื่อกันว่าการผลิตบ้านบนที่ดินรูปแบบนี้ ผู้อาศัยจะประสบความล้มเหลวและไม่สุขสบายอีกด้วย

ถ้าเกิดที่ดินที่คุณกำลังตกลงใจซื้อเข้าเกณฑ์ที่ดินต้องห้ามรูปแบบนี้ ขอชี้แนะให้ใคร่ครวญให้รอบคอบอีกที หรือขอความเห็นผู้ที่มีความชำนาญสำหรับในการก่อสร้างบ้านครบวงจร

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ฮอยอาน่า

ประโยชน์ของอาหารเย็นที่หลาย ๆ คนชอบอด

คนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ มักที่จะมีพฤติกรรมการอดอาหารเย็นกัน เพราะว่าจะได้ลดน้ำหนัก และทำให้รูปร่างของตนเองนั้นดูดีมากขึ้น

รู้หรือไม่ว่า นอกจากอาหารเช้าจะมีความสำคัญต่อร่างกายของเราแล้ว อาหารเย็นก็มีความจำเป็นต่อร่างกายของเราเช่นกัน เพราะตลอดทั้งวันร่างกายของเราจะถูกใช้งานมาอย่างหนัก อาจจะทำให้ร่างกายของเราอ่อนเพลีย ฉะนั้น การที่ร่างกายของเราได้รับสารอาหาร

จากการทานอาหารเย็น จะช่วยเพิ่มพลังงาน และเพิ่มสารอาหารที่ดีให้แก่ร่างกายของเราได้ แต่หากใครที่กลัวว่า กลัวว่าตนเองจะอ้วนเพราะต้องทานอาหารเย็นเป็นประจำ แถมยังเป็นมื้อที่สามารถเพิ่มน้ำหนักของเราได้เป็นอย่างมากอีกด้วย

แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากเราเลือกทานอาหารที่เหมาะสม หรืออาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายโดยเฉพาะ ก็อาจจะช่วยลดน้ำหนัก แถมยังทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับใครชอบอดอาหารเย็น

วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า ประโยชน์ของอาหารเย็นที่หลาย ๆ คนชอบอดนั้น จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย 

  • ช่วยเพิ่มหลังงานที่ดีให้แก่ร่างกาย

แน่นอนว่าในแต่ละวันนั้นร่างกายของเราจะเกิดการเผาผลาญพลังงานได้ในทุกช่วงเวลาโดยที่ไม่มีขีดจำกัด ยิ่งถ้าเราเคลื่อนไหวร่างกายเยอะ ก็  เครื่องช่วยฟังเล็กจิ๋ว  จะทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น ฉะนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรจะทานมื้อเย็น

เพื่อช่วยทดแทนพลังงานที่สูญเสียไป และเพื่อเป็นการกระจายพลังงานในแต่ละมื้ออย่างเพียงพอ ยิ่งถ้าราเลือกทานมื้อเย็นที่สามารถเพิ่มพลังงานได้ จะยิ่งดีต่อสุขภาพร่างกาย และทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง 

  • ช่วยปรับวามสมดุลของร่างกาย

รู้หรือไม่ว่า ตั้งแต่เราตื่นนอนจนถึงเวลาเข้านอน ร่างกายของเราจะทำงานอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหากร่างกายของเราไม่ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอ จะทำให้พลังงาน หรือการทำงานต่าง ๆ ภายในร่างกายลดลง จนเสียสมดุลได้

ฉะนั้น เพื่อรักษาความสมดุลของร่างกาย การที่เราทานมื้อเย็น ซึ่งเป็นมื้อสุดท้ายของวัน จะช่วยรักษาสมดุลร่างกายของเราได้ ทำให้ร่างกายมีเซลล์ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

  • ช่วยสร้างความสุขได้

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ในความเป็นจริงนั้น การทานมื้อเย็นถือเป็นมื้อที่สามารถสร้างความสุขให้กับใครหลาย ๆ คนได้ เพราะบางคนการที่ได้ทานมื้อเย็นกับคนที่เรารัก จะยิ่งเพิ่มความสุขให้กับเราได้ แต่หากใครที่เกรงว่าจะยิ่งทำให้เราอ้วน

ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป หากเราเลือกทานมื้อเย็นในช่วงเวลาที่เหมาะสม หรือการเลือกทานแต่สิ่งดี ๆ ให้แก่ร่างกายของเราได้  

การจ้องคอมเป็นเวลานาน มีผลเสียต่อสายตาของเราหรือไม่

 การจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจมีผลเสียต่อสายตาของเราได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการทางสายตาหรือสายตาอ่อนแรงได้บ้าง ต่อไปนี้คือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

1.สายตาอ่อนแรง (Eyestrain): การจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจทำให้กล้ามเนื้อที่ควบคุมการโยกของตาทำงานหนักลง ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการทางสายตาได้ เช่น ตาแห้ง ตาแข็ง หรือความรู้สึกว่าตาหนัก

2.แสงนำทางสายตา (Glare): แสงที่มาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือแสงที่สะท้อนมาจากพื้นผิวหน้าจออาจทำให้เกิดแสงนำทางสายตา ซึ่งอาจทำให้มีการจ้องสายตาในทิศทางที่ไม่เหมาะสม

3.ปัญหาการนอน (Sleep Disturbance): การใช้คอมพิวเตอร์ก่อนนอนอาจส่งผลต่อการนอนหลับ เนื่องจากแสงที่ออกมาจากหน้าจอ (ที่มีสีฟ้า) สามารถกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนของฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งมีผลต่อรอยสัมผัส

4.สภาพแวดล้อมทำงานไม่เหมาะสม: การที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่ได้ถูกตั้งค่าหรือสภาพแวดล้อมทำงานไม่ดี (เช่น แสงสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม) อาจทำให้สายตาทำงานหนักมากขึ้น

เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ควรมีการดูแลสุขภาพสายตาด้วยการทำตามข้อแนะนำต่อไปนี้

1.พักผ่อนสายตา: ทำการพักผ่อนสายตาให้บ่อยๆ โดยใช้วิธี 20-20-20 คือ ทุก 20 นาทีให้หันหน้ามองออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ มองไกล (อย่างน้อย 20 ฟุต) ในเวลา 20 วินาที

2.การตั้งค่าหน้าจอ: ปรับความสว่างและความเข้มของหน้าจอให้เหมาะสม และใช้ฟิลเตอร์ที่ช่วยลดแสงนำทางสายตา

3.สภาพแวดล้อมทำงาน: จัดสรรแสงให้เหมาะสม และหลีกเลี่ยงแสงที่สะท้อนมาจากหน้าจอ

4.ใส่แว่นตาที่เหมาะสม: หากมีปัญหาสายตา ควรไปพบแพทย์ตาเพื่อตรวจวินิจฉัยและรับคำแนะนำ

5.การนอนหลับ: ลดการใช้คอมพิวเตอร์ก่อนนอนและปรับแสงในสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการผลัดเปลี่ยนของฮอร์โมนเมลาโทนิน

การดูแลสายตาอย่างเหมาะสมจะช่วยลดการทำงานหนักของสายตาและลดความเสี่ยงของปัญหาสายตาในอนาคตได้

 

การลดปัญหาสายตาจากการเล่นคอม

 การลดปัญหาสายตาจากการเล่นคอมสามารถทำได้ด้วยการปฏิบัติตามขั้นตอนและแนวทางที่เหมาะสม ต่อไปนี้คือบางวิธีที่อาจช่วยลดปัญหาสายตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์

1.การรักษาท่าทางที่ถูกต้อง:ปรับตำแหน่งที่นั่งให้เหมาะสม โดยให้หน้าจออยู่ในระดับสายตาและมองลงให้น้อยลง รักษาท่าทางที่ถูกต้องเพื่อลดการทำงานหนักของกล้ามเนื้อตา

2.พักผ่อนสายตา:ใช้หลัก 20-20-20 โดยทุก 20 นาทีให้พักผ่อนสายตา โดยมองออกจากหน้าจอไปที่จุดที่ห่างออกไป 20 ฟุต และทำเป็นเวลา 20 วินาที

3.ปรับแสงในสภาพแวดล้อม:ปรับความสว่างและความเข้มของหน้าจอให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมลดการสะท้อนแสงจากหน้าจอ โดยใช้ฟิลเตอร์หรือแว่นตาที่มีคุณสมบัติป้องกันแสงนำทาง

4.รับรู้เวลาการใช้งาน:จำกัดเวลาการใช้คอมพิวเตอร์และให้เวลาพัก โดยไม่ให้ทำงานหรือเล่นเกมเป็นระยะเวลานานๆ

5.ออกกำลังกายสายตา:ทำการออกกำลังกายสายตา เช่น การหันตาไปทางด้านซ้าย-ขวา และขึ้น-ลง

 

สนับสนุนโดย      เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

3 เรื่องใกล้ตัวที่ควรปรับเปลี่ยนหากอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ในสมัยปัจจุบันนี้ คนส่วนใหญ่จะมีวิถีชีวิตและมีการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันออกไป อาจมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น แต่บางคนอาจจะมีชีวิตที่ตกต่ำ

ทำให้การใช้ชีวิตนั้นมักที่จะพบเจอกับปัญหาต่างๆได้ง่าย ซึ่งขอบอกเลยว่าการที่เราให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายและคุณภาพชีวิตของเรานั้น เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เรานั้นมีความสุขและสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งต้องบอกก่อนว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยนี้มักที่จะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต จนทำให้ชีวิตนั้นเปลี่ยนไปจากเดิมเยอะมากๆ จนถึงอาจมีปัจจัยสำคัญหรือเรื่องใกล้ตัวที่มักจะพบเจอและทำอยู่บ่อยบ่อย จนทำให้เกิดปัญหาต่างๆขึ้นกับการใช้ชีวิตได้นั่นเอง

แต่ถึงอย่างไรก็ตามไม่ว่าใครๆก็คงอยากที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นและอยากที่จะมีความสุขกับการใช้ชีวิต แต่ก็ไม่ต้องไปกังวลไป หากใครที่ต้องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือเลือกใกล้ตัวที่มักพบเจอและมักจะทำอยู่บ่อยบ่อย

เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองที่ดียิ่งขึ้น วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าเรื่องใกล้ตัวที่หลายหลายคนมักจะพบเจอกันอยู่บ่อยบ่อย

จะทำให้มีปัญหาเกิดขึ้นในชีวิต จะมีอะไรบ้างที่เราควรปรับเปลี่ยนหากเรายังมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น วันนี้เรามีคำตอบ

  • ความสัมพันธ์กับคนในสังคม

ปัญหานี้ถือเป็นปัญหาอันดับต้นต้นของการใช้ชีวิตของใครหลายหลายคนมากๆ เพราะคนส่วนใหญ่อาจจะมีความสัมพันธ์กับคนในสังคมที่แตกต่างกันออกไป

ใครที่คิดว่าตัวเองมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี อาจจะเป็นไปได้ว่าเรื่องใกล้ตัวที่ควรปรับเปลี่ยนเลยก็คือความสัมพันธ์กับคนในสังคม ซึ่งเราควรที่จะมองโลกในแง่ดีไม่ควรมองโลกในแง่ร้ายจนเกินไป และการที่เราปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์กับคนในสังคม

สิ่งนี้จะทำให้เรานั้นอยู่ร่วมคนในสังคมได้ง่ายและทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นได้

  • การเลิกเหล้า

เรามักจะเห็นได้ว่า ใครก็ตามที่มีความเครียดและรู้สึกเบื่อก็มักที่จะออกไปดื่มเหล้าดื่มแอลกอฮอล์กันอยู่เสมอ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมนี้ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและ ยังเป็นการทำร้ายสุขภาพร่างกายของเราอีกด้วย

ซึ่งหากใครที่ต้องการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ตนเองมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ขอบอกไว้ว่าการที่เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองด้วยการเลิกดื่มเหล้าหรือแอลกอฮอล์

เครื่องช่วยฟังเล็กจิ๋ว     จะทำให้เรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีแถมยังไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอีกด้วย

  • การเป็นจิตอาสา

รู้หรือไม่ว่าการที่เราจะมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นได้นั้น เราก็สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ด้วยตนเอง ซึ่งวิธีที่จะทำให้เรามีความสุขกับการใช้ชีวิตเลยก็คือ การที่เรารู้จักแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการทำจิตอาสา

สิ่งนี้จะทำให้เรานั้นมีความสุขกับการใช้ชีวิต เพราะการเป็นผู้ให้จะทำให้เรารู้สึกดีและมีความสุข รับรองได้เลยว่าหากเราทำเป็นประจำจะทำให้เรานั้นอยากที่จะเป็นผู้ให้ และทำให้เรามีความสุขกับการใช้ชีวิตได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

3 กับดักที่ทำให้เราไม่สามารถลดน้ำได้

รู้หรือไม่ว่า สมัยปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่มีปัญหาเกี่ยวกับการลดน้ำหนักกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการลดน้ำหนักไม่ได้ผล ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลง เพราะบางคนในสมัยนี้มีความตั้งใจในการลดน้ำหนักกันเป็นอย่างมาก เพราะอาจจะมองว่าการลดน้ำหนัก จะช่วยให้เรานั้นมีรูปร่างที่ดี มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้ อีกทั้งยังเป้นตัวช่วยในการเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตได้อีกด้วย

ซึ่งต้องบอกก่อน การลดน้ำหนักในสมัยปัจจุบันนี้สามารถทำได้หงากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในแต่ละวิธีนั้นก็จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการลดน้ำหนักจะเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนนั้นให้ความสนใจ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่มีความท้อแท้ในเรื่องของการลดน้ำหนักกันอยู่บ้าง

กับดักที่ทำให้เราไม่สามารถลดน้ำได้ จนบางครั้งอาจหยุดการลดน้ำหนักไปเลยก็ได้ ฉะนั้น วันนี้เราจะพาสา ๆ ทุกคนไปดูกันว่า จะมีกับดัก หรือมีพฤติกรรมไหนบ้างที่สามารถบ่งบอกได้ว่าสาว ๆ ลดน้ำหนักไม่ได้ผลสักที ไปดูกันเลย 

การรับประทานอาหารน้อยเกินไป

แน่นอนว่าพฤติกรรมนี้เรียกได้ว่าเป็นพฤติกรรมที่สาว ๆ หลายคนมองว่า หากเรารับประทานอาหารน้อย ๆ ก็จะยิ่งทำให้การลดน้ำหนักนั้นได้ประสิทธิภาพมากที่สุด แต่รู้หรือไม่ว่า การที่เรากินอาหารให้น้อยลงกว่าเดิมนั้น ไม่ใช้วิธีในการลดน้ำหนักที่ได้ประสิทธิภาพ แต่อาจเป็นการทำลายสุขภาพร่างกายทางอ้อม และอาจเป็นวิธีการลดน้ำหนักที่เสียเวลาอีกด้วย

เพราะการที่เรารับประทานอาหารน้อยลง จะยิ่งทำให้ร่างกายของเรานั้นมีความอยากอาหารมากขึ้นจนอาจทำให้เรามีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นก็ได้  

การตั้งเป้าหมายเพื่ออื่น

รู้หรือไม่ว่าการที่เราลดน้ำหนัเพื่อคนอื่น หรืออาจจะเป็นเพื่อความพึงพอใจของคนอื่น ถือเป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ผิด เพราะไม่เพียงแค่ทำให้การลดน้ำหนักนั้นไม่เป็นผล แต่จะยิ่งเป็นการกดดันตนเองมากขึ้น โดยที่ตนเองก็อาจไม่รู้ตัวได้ ฉะนั้น ทางที่ดี การที่เราจะลดน้ำหนักให้เป็นผลเราควรที่จะต้องทำเพื่อตนเอง เพราะเราจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้นมีความสำคัญกับเรามากขนาดไหน

การเปรียบเทียบหุ่นกับคนอื่น

เราเชื่อว่าสาว ๆ ส่วนใหญ่ที่หันมาลดน้ำหนัก อาจจะมองว่าทำไม่รูปร่างของคนอื่นถึงดีขนาดนี้ และก็มักที่ตนเอาตนเองนั้นไปเปรียบเทียบกับคนอื่นอยู่เสมอ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เราเอารูปร่างของตนเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆ จะยิ่งทำให้เรานั้นมองตนเองเป็นจุดด้อย จนอาจทำให้การลดน้ำหนักไม่เป็นผลได้ เพราะเราไม่มีแรงผลักดันในการลดน้ำหนักเลยนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังที่เสียงรบกวนน้อยที่สุด