ทานยาเยอะๆมีผลต่อตับจริงหรือไม่และทำให้เป็นไขมันพอกตับได้รึเปล่า ?

ทานยาเยอะๆมีผลต่อตับจริงหรือไม่และทำให้เป็นไขมันพอกตับได้รึเปล่า ?

หลายคนสงสัยว่าหากเราทานยาเยอะๆติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้ส่งผลเสียต่อเราหรือไม่ จริงๆการทานยา ไม่ว่าจะเป็นยาปฏิชีวนะ หรือยาบำรุง อาหารเสริม ก็ล้วนแต่มีผลต่อตับของเราทั้งสิ้น
จริงๆหน้าที่ของตับนั้น จะทำหน้าที่ในการขับยาที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายของเราออกไป ผู้ที่ทานยาและอาหารเสริมจำนวนมากเป็นระยะเวลานาน จึงมักจะกังเวล แต่เราควรจะทานยาอย่างไรหละเพื่อไม่ให้ตับของเราพัง
จากข้อมูลสารบัญยา ในปัจจุบันมียามากกว่า 900 ชนิดที่มีข้อมูลว่ามีผลต่อการทำงานของตับได้ แม้ว่ายานั้นจะมีส่วนผสมของสมุนไพรก็ตาม และยาและอาหารเสริมเหล่านี้จะมีผลต่อตับของเรามากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น
  • อายุ
  • เพศ
  • เชื้อชาติ
  • หรือการดื่มแอลกอฮอล์
  • รวมไปถึงโรคประจำตัวอื่นๆก็มีผลทั้งสิ้น
แต่ถ้าหากคุณจำเป็นที่จะต้องทานยาและอาหารเสริมในปริมาณมากๆและเป็นระยะเวลานาน แต่ก็ยังกังวลเรื่องสุขภาพและการทำงานของตับ มาลองทำตาม 3 ข้อง่ายๆกันดีกว่าค่ะ เริ่มกันที่
1. ดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นประจำ
น้ำเป็นสิ่งสำคัญของร่างกาย ไม่ว่าใครๆก็ไม่สามารถขาดน้ำได้ น้ำจะเป็นตัวช่วยให้ตับระบายของเสียต่างๆออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดภาระการทำงานของตับที่ทำงานหนักเกินไป หากปกติคุณดื่มน้ำ 8-10 แก้วต่อวัน แต่ถ้าเป็นช่วงที่จะต้องทานยา ก็ให้ดื่มน้ำต่อวันให้มากกว่าเดิม
2. หากรู้สึกว่าตับมีปัญหาให้รีบไปพบแพทย์ทันที
หากคุณเป็นคนที่ไม่เคยตรวจสุขภาพ ไม่เคยรู้เลยว่าตับของตัวเองนั้นปกติหรือไม่ ให้รีบไปตรวจ อย่ารอให้มีอาการ หรือถ้ารู้สึกไม่ดีในช่วงทานยา ก็ให้รีบแจ้งแพทย์ เนื่องจากยาบางตัวอาจจะทำให้อาการของคุณแย่ลงก็ได้
3. รับประทานอาหารที่เน้นบำรุงตับ
มีอาหารมากมายที่สามารถช่วยบำรุงตับของคุณให้แข็งแรง ลดการทานน้ำตาล และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงอาหารแปรรูป เพราะจะมีสิ่งตกค้างสูง เพียงแค่สามข้อนี้ก็สามารถลดภาระการทำงานของตับได้แล้ว ดังนั้นการทานยามากๆ ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้ตับเราพังเสมอไป มันมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายร่วมด้วย ท่านใดที่จำเป็นต้องทานยาก็ไม่ต้องกังวลไป แต่ก็ควรดูแลสุขภาพควบคู่ไปด้วยจะดีที่สุด